โอกาสที่ผู้ลงทุนไม่ได้รับเงินคืน ของแต่ละ Credit Rating
หุ้นกู้เรตติ้งหลายระดับ ซึ่งการลงทุนในหุ้นกู้เรตติ้งต่างกันก็มีโอกาสที่ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับเงินต้นคืนแตกต่างกันไป ยิ่งเครดิตเรตติ้งต่ำ ๆ ใกล้ระดับ D โอกาสที่ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับเงินคืนก็ยิ่งสูงไปตามกัน
สถาบันจัดอันดับเครดิตของไทย ได้แก่ Fitch กับ Tris ได้ประเมินโอกาสที่บริษัทผู้ออกไม่สามารถจ่ายเงินคืนผู้ลงทุน หรือโอกาสที่ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับเงินต้นคืนของแต่ละเรตติ้งไว้..
ขอพาไปดูหุ้นกู้เรตติ้ง AAA - AA ที่ถือว่าเป็นหุ้นกู้ที่คุณภาพดีมากถึงมากที่สุดกันก่อน ถ้าให้เดา คิดว่าจะมีโอกาสที่จะสูญเงินต้นซักเท่าไหร่ ... เพียง 0.02% แปลว่า ในระยะเวลา 1 ปี หากมีจำนวนผู้ออกหุ้นกู้ 100 ราย จะมีเพียง 0.02 ราย ที่ผิดนัดชำระหนี้ หรือไม่จ่ายเงินคืนให้คุณ
และถ้าดูจากตารางจะเห็นว่าโอกาสการสูญเงินต้นจะเพิ่มมากขึ้นๆ จาก AAA ถึง AA ยังเป็นระดับทศนิยม BBB ถึง B เพิ่มขึ้นมาอยู่แถวๆ 1 - 4% แปลว่า หากมีจำนวนผู้ออกหุ้นกู้ 100 ราย จะมีเพียง 1 - 4 ราย ที่ผิดนัดชำระหนี้ หรือไม่จ่ายเงินคืนให้คุณ พอเรตติ้ง CCC - C โอกาสสูญเงินต้นกระโดดไปถึง 32% หรือในจำนวนผู้ออกหุ้นกู้ 100 ราย จะมีผู้ออกหุ้นกู้ถึง 32 รายที่ผิดนัดชำระหนี้ และที่แย่สุดๆ คือเรตติ้ง D ที่โอกาสสูญเงินต้นมีถึง 100% เลย นั่นหมายถึง หากคุณลงทุนหุ้นกู้นั้น คุณต้องสูญเงินแน่นอน ซึ่งก็ต้องไปฟ้องร้องกันต่อไป ลองคิดดูสิครับ หากเป็นเงินก้อนสุดท้าย คุณจะเสียใจมากแค่ไหน
เห็นมั้ยครับว่าเรตติ้งนอกจากบอกคุณภาพบริษัทแล้ว ยังสะท้อนถึงโอกาสที่เราจะไม่ได้เงินต้นคืนอีกด้วย
แต่แต่แต่.... อย่าลืมนะครับว่า แม้แต่เครดิตเรตติ้งชั้นดี๊ดี ก็มีโอกาสที่คุณจะไม่ได้รับเงินคืน ตอกย้ำว่า ไม่มีการลงทุนใดๆ ที่ปลอดภัย 100 % นะครับ
สายน้ำมีขึ้น มีลง ฉันใด เครดิตเรตติ้งก็เช่นกัน ก็อาจปรับเปลี่ยนขึ้นลงได้ในช่วงที่ผู้ลงทุนถืออยู่